Tretinoin เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ (Vitamin A) ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเรตินอลทั่วไป และเคยมีชื่อเสียงภายใต้ชื่อการค้า Retin-A ซึ่งถือเป็นต้นแบบของยาต่อต้านริ้วรอย สารนี้สามารถเร่งการหลุดออกของเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้เกิดสภาพหน้าใสที่หลายคนปรารถนา และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์
ในประเทศไทย Tretinoin ที่ได้รับการอนุญาตจาก อย. มีจำหน่ายในรูปแบบครีมและเจล ความแรง 0.025% และ 0.05% โดยควรเริ่มต้นด้วยความแรงต่ำก่อน เพื่อให้ผิวปรับตัวและลดการระคายเคือง ผลการเปลี่ยนแปลงจะปรากฏชัดเจนหลังใช้สม่ำเสมอ 6-12 สัปดาห์ จนสามารถสัมผัสได้ถึงผิวกระจ่างใสขึ้น ผิวกระจกเหมือนใหม่ที่เรียบเนียน จากการศึกษาในผู้ป่วยไทย 61 คน พบว่าการใช้ 0.05% เป็นเวลา 6-12 เดือน สามารถปรับปรุงสภาพผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างชัดเจน
ความสำคัญของการปรึกษาแพทย์และข้อควรระวัง
การใช้ Tretinoin จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้เสมอ เนื่องจากเป็นสารที่มีฤทธิ์แรงและอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ ขั้นตอนการใช้ที่ถูกต้องตามคำแนะนำจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คือ ทำความสะอาดใบหน้า ซับให้แห้งและรอ 20-30 นาที จากนั้นทายาประมาณครึ่งนิ้วทั่วใบหน้าก่อนนอน วันละ 1 ครั้ง หลีกเลี่ยงบริเวณรอบตา ปาก และจมูก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรก ได้แก่ การระคายเคือง ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และแสบร้อน สิวอาจแย่ลงใน 7-10 วันแรก แต่จะดีขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง ผลการรักษาจะเห็นชัดเจนประมาณ 6 สัปดาห์ โดยจะเห็นการลดเลือนริ้วรอย ผิวหน้าใสขึ้น และเนื้อผิวเรียบเนียนมากขึ้น
ข้อควรระวังสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดด SPF สูง ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่ควรใช้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือโรคผิวหนังอักเสบควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้ร่วมกับ AHA, BHA หรือ Benzoyl Peroxide โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์

ความสำคัญของการปรึกษาแพทย์และข้อควรระวัง
การใช้ Tretinoin จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้เสมอ เนื่องจากเป็นสารที่มีฤทธิ์แรงและอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ ขั้นตอนการใช้ที่ถูกต้องตามคำแนะนำจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คือ ทำความสะอาดใบหน้า ซับให้แห้งและรอ 20-30 นาที จากนั้นทายาประมาณครึ่งนิ้วทั่วใบหน้าก่อนนอน วันละ 1 ครั้ง หลีกเลี่ยงบริเวณรอบตา ปาก และจมูก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงแรก ได้แก่ การระคายเคือง ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และแสบร้อน สิวอาจแย่ลงใน 7-10 วันแรก แต่จะดีขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง ผลการรักษาจะเห็นชัดเจนประมาณ 6 สัปดาห์ โดยจะเห็นการลดเลือนริ้วรอย ผิวหน้าใสขึ้น และเนื้อผิวเรียบเนียนมากขึ้น
ข้อควรระวังสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดด SPF สูง ผู้หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่ควรใช้ ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือโรคผิวหนังอักเสบควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้ร่วมกับ AHA, BHA หรือ Benzoyl Peroxide โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
แหล่งอ้างอิงทางการแพทย์
หน่วยงานและสถาบันการศึกษา:
การศึกษาวิจัยสากล:
- “The effect of topical tretinoin on photodamaged facial skin: the Thai experience” – การศึกษาเฉพาะในผู้ป่วยไทยที่ตีพิมพ์ใน PubMed
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ ผู้อ่านควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนการใช้งานเสมอ